จานเบรกความร้อนสูงและบิดงอ
สาเหตุของการเกิดความร้อนสูงของจานเบรก
จานเบรกที่รับความร้อนมากเกินไปมักเกิดจากการเสียดสีมากเกินไป เนื่องจากผู้ขับขี่ใช้ความรุนแรงในการขับขี่ โดยเฉพาะการเหยียบเบรกอย่างแรงที่ความเร็วสูง การขับขี่อย่างรุนแรงหมายถึงการเหยียบเบรกซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งสร้างความร้อนจำนวนมาก โดยไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีรอบชิ้นส่วนเบรก สถานการณ์จะยิ่งแย่ลงเพราะไม่มีสิ่งใดที่ช่วยป้องกันการสะสมของความร้อนนั้น ผ้าเบรกที่มีราคาถูกก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากทนความร้อนได้น้อยกว่าผ้าเบรกที่มีคุณภาพดีกว่า การขับขี่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือขับขึ้นเนินเขาอย่างต่อเนื่องยังเพิ่มแรงกดดันพิเศษต่อจานเบรก ทำให้จานเบรกมีแนวโน้มที่จะรับความร้อนมากเกินไปมากยิ่งขึ้น การเข้าใจสาเหตุที่เกิดปัญหานี้ จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถดำเนินการป้องกันปัญหา และรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเบรกให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม
สัญญาณของโรเตอร์ที่บิดเบี้ยว
เมื่อจานเบรกเริ่มบิดงอ มักจะมีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ให้รู้ปัญหาได้ก่อนที่จะลุกลาม โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะรู้สึกถึงการสั่นที่แผงเบรกเมื่อเหยียบเบรกแรงๆ โดยเฉพาะบนทางหลวงที่ความเร็วสูง นอกจากนี้ ผู้ขับขี่อาจพบว่าระยะในการหยุดรถนั้นยาวนานขึ้นกว่าเดิม และรถมีแนวโน้มที่จะดึงไปด้านใดด้านหนึ่งขณะเบรก อีกทั้งหากมีการตรวจสอบดูใต้กระโปรงหน้าหรือล้อรถ ก็อาจพบปัญหาที่เห็นได้ชัดเจน เช่น รอยสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอของพื้นผิวจานเบรก หรือการบิดงอของโลหะที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขโดยทันที และอย่าลืมเสียงรบกวนที่น่าหงุดหงิดเหล่านั้นด้วย เพราะเสียงหวีดหวิวหรือเสียงเอี๊ยดอ๊าดที่เกิดขึ้นจากเบรก มักจะบ่งบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติในระบบ ซึ่งเสียงเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องรบกวน แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ชี้ให้เห็นถึงจานเบรกที่อาจบิดงอ ดังนั้นควรพาไปให้ช่างตรวจสอบโดยเร็ว จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
วิธีแก้ปัญหาเพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อน
หากเราต้องการป้องกันไม่ให้จานเบรกเกิดความร้อนสูงเกินไปและเกิดความเสียหาย การตรวจเช็กเป็นประจำจึงมีความสำคัญมาก เนื่องจากสามารถตรวจพบปัญหาตั้งแต่ยังไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่ ผ้าเบรกที่มีคุณภาพดีซึ่งทนต่อความร้อนได้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเบรกทั้งระบบ ท่าทางการขับขี่ของผู้ขับขี่ก็มีผลเช่นกัน ผู้ขับขี่ที่ไม่เหยียบคันเบรกตลอดเวลาหรือเหยียบเบรกแรงๆ จะช่วยลดแรงกดดันต่อระบบเบรกโดยรวม นอกจากนี้อย่าลืมรักษาความสะอาดในบริเวณดังกล่าว เพราะฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมจะกีดขวางการระบายอากาศที่เหมาะสม ทำให้จานโลหะไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีพอ ดังนั้นการผสมผสานการบำรุงรักษาเป็นประจำเข้ากับนิสัยการขับขี่ที่ดีขึ้น จะช่วยป้องกันปัญหาความร้อนสูงเกินไปในระยะยาว
การสึกหรอของแผ่นเบรกและการลดประสิทธิภาพ
ลวดลายการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ
เมื่อผ้าเบรกสึกหรอไม่สม่ำเสมอ ปัญหานี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกและปัจจัยด้านความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างแท้จริง สาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนที่ไม่ได้รับการปรับตั้งให้ตรงหรือคาลิเปอร์ที่ทำงานไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้เกิดแรงกดมากเกินไปในบางส่วนของผ้าเบรก ขณะที่อีกส่วนกลับไม่ได้รับแรงกดเลย พฤติกรรมของผู้ขับขี่ก็มีผลเช่นกัน ผู้ขับขี่ที่ชอบเบรกกระทันหันอยู่บ่อยครั้งมักก่อให้เกิดความไม่สม่ำเสมอเช่นนี้ เนื่องจากแรงกดจากเท้าที่หนักและไม่สมดุลจะกระจายตัวไม่เท่ากันทั่วทั้งแผ่นผ้าเบรก การตรวจสอบด้วยสายตามีความสำคัญมาก ช่างควรตรวจสอบพื้นผ้าเบรกอย่างละเอียดในระหว่างการตรวจเช็กตามปกติ หากพบว่าความหนาของผ้าเบรกในแต่ละจุดแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ก็ควรพิจารณาเปลี่ยนหรือปรับตั้งใหม่ คุณภาพของวัสดุก็มีบทบาทสำคัญด้วย ผ้าเบรกที่มีราคาถูกและทำจากวัสดุคุณภาพต่ำจะสึกหรอไม่สม่ำเสมอ ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการเบรกในระยะยาว
อาการของแผ่นเบรกลดลง
การรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผ้าเบรกเริ่มสึกหรอเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้รถยนต์ของคุณมีความปลอดภัยและทำงานได้อย่างเหมาะสม สิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่หลายคนสังเกตเห็นเป็นอันดับแรกคือเสียงดังก้องหรือเสียงหวีดเมื่อเหยียบเบรกแรง ๆ โดยปกติแล้วนั่นหมายความว่าผ้าเบรกได้สึกหรอจนบางมากแล้ว อีกสัญญาณเตือนหนึ่งคือเบรกดูเหมือนจะใช้งานไม่ได้ดีเหมือนเดิมอีกต่อไป หากการหยุดรถใช้เวลานานกว่าปกติหรือรู้สึกช้าลง โอกาสที่ผ้าเบรกจะต้องเปลี่ยนก็มีมาก บางครั้งขณะเบรกคุณอาจรู้สึกถึงการสั่นที่พวงมาลัย ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงทั้งผ้าเบรกที่สึกหรอและปัญหาที่เป็นไปได้กับจานเบรกด้านล่าง อย่าลืมสังเกตไฟเตือนบนหน้าปัดด้วย ไฟเตือนเหล่านี้จะขึ้นมาเพราะมีเหตุผล และส่วนใหญ่จะบอกเราอย่างชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องได้รับการดูแลก่อนที่ปัญหาเล็กน้อยจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงในภายหลัง
เมื่อใดควรเปลี่ยนแผ่นเบรก
การหาจังหวะเปลี่ยนผ้าเบรกนั้นช่วยประหยัดเงินในระยะยาว เพราะจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ผู้ใช้รถส่วนใหญ่จะเปลี่ยนผ้าเบรกที่ระยะทางประมาณ 30,000 ถึง 70,000 ไมล์ แต่ช่วงระยะนี้อาจแตกต่างกันไปมาก ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ผู้ที่ขับรถในเมืองที่ต้องหยุดๆ เริ่มๆ บ่อย หรือขับในทางลาดชันจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรกบ่อยกว่าผู้อื่น ลองสังเกตดูที่ผ้าเบรกเองเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าควรเปลี่ยนใหม่ รอยขีดข่วนลึกบนผิวหน้า หรือผ้าเบรกที่บางจนเกือบแบนราบ แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้ว และหากหลังจากตรวจสอบแล้วยังได้ยินเสียงดังก้องหรือเสียงหวีดจากเบรกอยู่ อย่าลังเล รีบนำรถไปตรวจทันทีก่อนปัญหาจะลุกลาม การตรวจสอบเบรกในช่วงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือตรวจเช็กสภาพรถตามปกติก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ช่างสามารถตรวจพบปัญหาแต่เนิ่นๆ และแจ้งเตือนผู้ขับเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นอันตราย
การระบุรอยแตกร้าวจากแรงเครียดในโรเตอร์
การควบคุมรอยแตกร้าวจากความเครียดในจานเบรกนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาประสิทธิภาพในการทำงานของระบบเบรก ช่างจำเป็นต้องตรวจสอบเป็นประจำเพื่อหารอยร้าวเล็กๆ หรือรอยแยกที่กว้างขึ้นบนพื้นผิวจานเบรกในระหว่างการตรวจสอบ ความเสื่อมสภาพที่เกิดขึ้นจากความถี่ในการใช้งานจะทำให้โลหะบางลงตามกาลเวลา ซึ่งหมายความว่าพลังการหยุดรถจะอ่อนลงจนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ การตรวจสอบจึงไม่ควรเป็นเรื่องที่ถูกมองข้าม แต่ควรถูกบรรจุไว้เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการบำรุงรักษาปกติ เราได้เห็นหลายกรณีที่ผู้ขับขี่เพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนในระยะแรก จนสุดท้ายต้องเผชิญกับการเกิดความล้มเหลวของระบบเบรกโดยสมบูรณ์ กลเม็ดที่ดีที่ช่างมักใช้คือการใช้ไมโครมิเตอร์วัดความหนาของจานเบรก ขั้นตอนง่ายๆ นี้จะช่วยให้พวกเขาทราบว่ายังมีเนื้อวัสดุเหลือพอที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ในไม่ช้า
ผลกระทบของร่องลึกต่อการเบรก
เมื่อจานเบรกเริ่มมีรอยขูดลึกปรากฏขึ้น ก็ถึงเวลาที่ควรกังวลอย่างจริงจัง เพราะรอยขูดเหล่านี้มักจะสะสมสิ่งสกปรกและฝุ่นผงจากถนนได้หลากหลายชนิด การสะสมดังกล่าวส่งผลให้การเบรกไม่คงที่ และระยะการหยุดรถนานกว่าปกติ มีการศึกษาพบว่า เมื่อจานเบรกถูกรอยขูดทำลายมากเกินไป ผ้าเบรกจะต้องทำงานหนักกว่าที่ควร ซึ่งหมายความว่าผ้าเบรกจะสึกหรอเร็วกว่าที่คาดไว้ และยังต้องนับถึงอาการสั่นไม่พึงประสงค์ที่รู้สึกได้จากพวงมาลัยขณะเบรกแรง ๆ ซึ่งมักเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่รีบตรวจสอบจานเบรกโดยเร็ว หากรอยขูดมีความรุนแรงมาก ก็ไม่มีทางเลี่ยงได้เลย โดยช่างมักแนะนำให้ทำการกลึงจานเบรกใหม่หรือเปลี่ยนทั้งชุดเพื่อให้ระบบเบรกกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
การตัดสินใจระหว่างการขัดและการเปลี่ยนใหม่
เมื่อต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่างการกลึงหรือการเปลี่ยนจานเบรกใหม่ ช่างจำเป็นต้องพิจารณาความหนาของวัสดุที่เหลืออยู่ และประเมินว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเลวร้ายเพียงใด การกลึงจานเบรกสามารถช่วยคืนพื้นผิวให้เรียบได้แน่นอน แต่กระบวนการนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ เช่น ในกรณีที่จานเบรกมีรอยร้าวในเนื้อโลหะ ไม่ว่าจะกลึงมากแค่ไหนก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างปลอดภัย การเปลี่ยนจานเบรกใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างเด็ดขาดในกรณีเช่นนี้ เนื่องจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้จานเบกร้าวในการขับขี่ ประเด็นเรื่องต้นทุนก็สำคัญเช่นกัน บางร้านอาจแนะนำให้เลือกการกลึงเพราะราคาถูกกว่าในระยะสั้น แต่ผู้ขับขี่ควรคำนึงถึงอายุการใช้งานของจานเบรกที่ถูกกลึงแล้วว่าจะคงทนได้นานแค่ไหน ก่อนที่จะต้องกลึงซ้ำหรือเปลี่ยนใหม่อยู่ดี ควรตรวจสอบเสมอว่าผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้อย่างไรในคู่มือการบำรุงรักษา (manual) เพราะผู้ผลิตนั้นเข้าใจผลิตภัณฑ์ของตนเองดีที่สุด โดยปกติแล้วจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเมื่อไหร่ที่การกลึงยังสามารถทำได้ และเมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนจานเบรกใหม่เพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนน
ปัญหาการปนเปื้อนและการเกิดเสียงจากเบรก
ผลกระทบของเศษขยะต่อพื้นผิวโรเตอร์
จานเบรกที่ปนเปื้อนอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา หากไม่ได้รับการแก้ไข ฝุ่นผง โคลน และสิ่งสกปรกบนพื้นผิวโลหะจะก่อให้เกิดแรงเสียดทานเพิ่มมากขึ้น ทำให้เบรกเกิดเสียงดัง และสึกหรอเร็วกว่าปกติ สภาพอากาศก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย ทั้งฝน เกลือ และโคลนยิ่งทำให้แย่ลง งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า สิ่งปนเปื้อนเหล่านี้รบกวนการยึดเกาะของผ้าเบรกกับจานเบรก ส่งผลให้ระยะการหยุดรถยาวขึ้น ในช่วงเวลาที่คนขับต้องการหยุดรถมากที่สุด การรักษาความสะอาดของพื้นผิจานเบรกไม่ใช่เพียงแค่การบำรุงรักษาที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตได้จริง การเช็ดทำความสะอาดอย่างรวดเร็วหลังจากขับรถผ่านสภาพถนนที่ไม่ดี อาจเป็นสิ่งที่ทำให้แตกต่างระหว่างการหยุดรถได้อย่างปลอดภัยกับการเกิดอุบัติเหตุ
แก้ไขเสียงหวีดและเสียงครูดของเบรก
เมื่อต้องรับมือกับเสียงดังจากเบรก ขั้นตอนแรกคือการหาให้ได้ว่าเสียงนั้นเกิดจากส่วนไหนแน่ — อาจเป็นที่ผ้าเบรก จานเบรก หรือแม้แต่คาลิเปอร์เอง โดยปกติแล้ว เสียงหวีดหวิวที่รบกวนจิตใจนั้นสามารถแก้ไขได้โดยการทาสารหล่อลื่นป้องกันเสียงบริเวณที่ชิ้นส่วนสัมผัสกัน แต่หากเกิดเสียงขัดอย่างต่อเนื่อง นั่นโดยทั่วไปหมายความว่าผ้าเบรกสึกหรอไปมากแล้ว หากปล่อยไว้นานเกินไป การสึกหรอนี้อาจกัดกินจานเบรกเองได้ ดังนั้นจึงสำคัญมากที่จะต้องเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่โดยทันทีก่อนที่ปัญหาจะแย่ลง การตรวจสอบเบรกอย่างสม่ำเสมอถือว่ามีความสำคัญมาก การตรวจสอบง่ายๆ ทุกเดือนสามารถช่วยให้คุณพบปัญหาเล็กๆ ได้ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในภายหลัง
เทคนิคการทำความสะอาดสำหรับแรงเสียดทานที่เหมาะสม
การใช้วิธีทำความสะอาดเบรกที่ถูกต้องนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเบรก เบรกคลีนเนอร์คุณภาพดีส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและคราบมันโดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่อาจรบกวนแรงหยุดรถ สิ่งนี้มีความสำคัญมาก เพราะสิ่งใดก็ตามที่เหลืออยู่บนผิวหน้าอาจลดประสิทธิภาพในการจับของเบรกได้ ความถี่ในการทำความสะอาดเบรกขึ้นอยู่กับระยะทางการขับขี่และสภาพแวดล้อมที่พบเจอ เมื่อมีคราบสะสมที่ฝังแน่นบนผ้าเบรก บางครั้งไม่มีอะไรดีไปกว่าการใช้แปรงลวดหรือแม้แต่แผ่นขัดเพื่อขจัดคราบที่ฝังแน่นเหล่านั้น การทำความสะอาดเป็นประจำจะช่วยให้ระบบเบรกทำงานได้อย่างเหมาะสม ผู้ขับขี่ที่ดูแลเรื่องนี้มักจะพบว่ารถของตนสามารถหยุดได้ดีขึ้นและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งหมายถึงการประหยัดเงินในระยะยาว